ครม. เห็นชอบให้วันที่ 21 มกราคมของทุกปี เป็น “วันความปลอดภัยของผู้ใช้ถนน” โดยมุ่งสร้างกระแสให้เกิดการรับรู้และปลูกจิตสำนึกด้านความปลอดภัยทางถนน เพื่อกระตุ้นเตือนให้ประชาชนเกิดความตระหนักและปฏิบัติตามกฎจราจร นำไปสู่การสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยทางถนนให้เกิดกับประชาชนทุกเพศ ทุกวัยในสังคมไทย
วันที่ 17 มกราคม 2566 นายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ในฐานะเลขานุการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) เปิดเผยว่า รัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับการสร้างความปลอดภัยทางถนนให้เกิดขึ้นแก่ผู้ใช้รถใช้ถนน และประชาชนทุกกลุ่ม โดยที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 17 มกราคม 2566 ได้มีมติเห็นชอบกำหนดให้วันที่ 21 มกราคมของทุกปี เป็น “วันความปลอดภัยของผู้ใช้ถนน” ตามที่ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) เสนอ มุ่งสร้างการรับรู้และปลูกฝังจิตสำนึกด้านความปลอดภัยทางถนนและกระตุ้นเตือนให้ประชาชนเกิดความตระหนักในการขับขี่ยานพาหนะทุกประเภทอย่างปลอดภัย ปฏิบัติตามกฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัดและมีวินัยในการใช้รถใช้ถนน เพื่อป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำหนดแนวทาง มาตรการ โดยเฉพาะการรณรงค์ประชาสัมพันธ์สร้างการมีส่วนร่วมในการลดอุบัติเหตุทางถนนแก่ประชาชนทุกกลุ่ม ควบคู่กับการารบังคับใช้กฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะผู้ที่กระทำผิดหรือกระทำผิดซ้ำ
นายบุญธรรม กล่าวต่อไปว่า ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย จะได้บูรณาการทุกหน่วยงานขับเคลื่อนการดำเนินงาน “วันความปลอดภัยของผู้ใช้ถนน” ตามมติคณะรัฐมนตรี ผ่านกลไกของศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนจังหวัดทุกจังหวัด กรุงเทพมหานคร ภาคีเครือข่ายด้านความปลอดภัยทางถนนทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กร มูลนิธิ และภาคประชาสังคม โดยมุ่งเน้นการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะการดำเนินคดีทางกฎหมายกับผู้กระทำผิดกฎหมายจราจรให้ได้รับโทษตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงการปรับปรุงบริเวณทางข้ามให้มีความปลอดภัยและจัดทำเครื่องหมายจราจร ป้ายเตือน ป้ายสัญลักษณ์ต่าง ๆ ให้ผู้ขับขี่และผู้ข้ามถนนมองเห็นได้ อย่างชัดเจน พร้อมทั้งจัดกิจกรรมทางข้ามปลอดภัยบริเวณโดยรอบสถานศึกษา และสร้างจิตสำนึกผู้ขับขี่ให้ลดความเร็วเมื่อขับผ่านเขตชุมชน สถานศึกษา สถานพยาบาล หรือเส้นทางเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุทางถนน อาทิ ทางข้าม ทางร่วม ทางแยก และที่สำคัญต้องหยุดรถให้คนข้ามในทางข้ามหรือทางม้าลาย เพื่อสร้างความปลอดภัยแก่กลุ่มคนเดินเท้า ควบคู่ไปกับการส่งเสริมวินัยจราจรและการปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะการรณรงค์สวมหมวกนิรภัย 100% ในกลุ่มผู้ใช้รถจักรยานยนต์ ทั้งนี้ เพื่อกระตุ้นเตือนให้ประชาชนและผู้ใช้รถใช้ถนนเกิดความตระหนักและเข้ามามีส่วนร่วมในการลดอุบัติเหตุทางถนน นำไปสู่การสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยทางถนนแก่ประชาชนทุกเพศ ทุกวัย
